อาหารและอารมณ์ เมื่อเรารู้สึกอารมณ์ไม่ดี ทำไมเราเลือกทานไอศกรีมแทน แครอท ? อาจเป็นเพราะว่าทานไอศกรีมแล้วรู้สึกจิตใจสบาย ผ่อนคลาย โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงตอนวัยเด็ก ใช่ล่ะไอศกรีมรสชาติอร่อย ในความเป็นจริงแล้วพอเราโตขึ้นมาเราอาจไม่เคยคิดถึงความจริงว่าอาหารมีผลกับอารมณ์ น้ำตาล ไขมัน และสารอาหาร ทริปโตเฟน ( Tryptophan ) ที่มีอยู่ในนม ( milk ) จะไปมีผลกับสารสื่อประสาทในสมอง ( neurotransmitters ) ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสบายชั่วคราว แต่ในระยะยาว น้ำตาลที่ทานเข้าไปจะทำให้เกิดผลตรงข้าม คือเพิ่มความเสี่ยงของ ความกังวลหรือซึมเศร้า (amxiety or depressed) และถ้ารับประทานน้ำตาลจำนวนมากและนานแล้วหยุด จะเกิดภาวะอาการการถอน (Sugar withdrawal) จะนำไปสู่อาการซึมเศร้า สูญเสียความสนใจในการทำกิจวัตรประจำวัน รู้สึกไม่มีคุณค่า ขาดพลังงานและขาดสมาธิ เราสามารถเพิ่มความคิดความอ่านเพิ่มสมาธิ ทำให้อารมณ์เบิกบานแจ่มใสด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีกับสุขภาพ สารอาหารต่างๆเช่นโปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , ไขมันในอาหาร รวมถึงวิตามินแร่ธาตุ สารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบเฉพาะในพืช ( Phytonutrients ) จะมีผลต่อการสร้างสารต่อประสาท (neurotransmitters) ฮอร์โมนและเอนไซม์ทั้งในลำไส้และสมอง จะมีผลต่ออารมณ์ ความจำ และการนอนอหลับ ยกตัวอย่าง ร่างกายต้องการวิตามินบีสำหรับการทำงานของสมอง วิตามินบี6สำหรับการสร้างโดปามีน ( dopamine ) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข และต้องการวิตามิน บี6 บี9 , และบี12 เพื่อสร้าง เซโลโทนิน ( serotonin ) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ จะเห็นว่า วิตามินบี (บีรวม) มีผลในการสร้างสารสื่อประสาท ซึ่งถ้าขาดจะทำให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้า , ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง บางคนจึงรับประทานวิตามินบีรวมเพื่อช่วยทำให้อารมณ์ดี ( really help & lift their mood ) สารอาหารที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีนชื่อไทโรซีน ( Tyrosine ) ที่มีอยู่ในปลา ถั่วเปลือกแข็ง (nut) , ไข่ , ถั่วฝัก (bean) และธัญพืชเต็มเมล็ด (whole grains ) ซึ่งร่างกายจะนำไปสร้างเป็นโดปามีน (ฮอร์โมนแห่งความสุข) เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมอารมณ์ , ความตื่นตัวและความสามารถในการเรียนรู้ ดังนั้นเราจึงควรเพิ่มอาหารเหล่านี้เวลาเกิดความเครียดในช่วงแรกๆ เราจะรู้สึกเบื่ออาหารเป็นผลจากที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอีพิเนฟฟริน (epinephrine) แต่ถ้าความเครียดดำเนินไปนานขึ้น ต่อมหมวกไตจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา( cortisol) จะทำให้หิวอาหาร รับประทานอาหารได้มาก รวมไปถึงฮอร์โมนแห่งความหิวหลั่งเพิ่มขึ้น (ghrelin) จะทำให้หิวบ่อย รับประทานอาหารได้มาก โดยเฉพาะอาหารรสหวานและรสมันจะชอบเป็นพิเศษ เพราะว่าร่างกายตอบสนองต่อภาวะความเครียด และระยะต่อไปอาหารรสหวานและรสมัน จะเป็นผลเสียต่อร่างกายและสมอง ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ดีกับสุขภาพ ( ร่างกายและจิตใจ ) รับประทานอาหารให้ครบ5หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว รับประทานข้าวกล้องเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ทานพืชผักให้มากและหลากหลาย ทานผลไม้หนึ่งในสามของพืชผัก รวมกันวันหนึ่งอย่างน้อย 4 – 6 ทัพพี , ทานปลาเป็นหลัก ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ ทานอาหารที่มีไขมันดีพอควร ลดความหวานและลดความเค็มลง สรุป เมื่อทานอาหารที่ดีกับสุขภาพ จะมีผลกับจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ เพิ่มความหลากหลายและเพิ่มปริมาณ มีผลดีกับสมอง ความจำ อารมณ์ และผลดีกับทุกระบบของร่างกาย
บทความโดย..
นพ.สมสินธู์ ฉายวิจิตร ศัลยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือก
เข้าชม(506)ครั้ง